คืนวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี คือ วันฮาโลวีน ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่เราจะเห็นเด็กๆ แต่งตัวแฟนซี ถือถังฟักทอง รวมตัวกัน เดินตะเวนไปตามบ้านต่างๆ
น็อคๆ เสียงเด็กๆ เคาะประตูอยู่หน้าบ้าน
พอเราเปิดประตู เด็กๆ จะถามทันทีว่า “trick or Treat”
ว่าแต่ว่าไอ้เจ้า Trick of Treat นี้มันแปลว่าอะไร
Treat (อ่านว่า ทรีท)
คำนี้แปลว่า “เลี้ยง” หรือ “ให้การดูแลรับรอง”
Trick (อ่านว่า ทริค)
คำนี้แปลว่า “หลอก ด้วยเล่ห์เหลี่ยม” หรือ “ใช้เล่ห์เหลี่ยม หรือ หลอกลวง”
สำหรับในเทศกาลวันฮาโลวีนนั้น คำสองคำนี้เด็กๆ ที่แต่งตัวเป็นผีหรือชุดแฟนซีต่างๆ จะถามเจ้าของบ้านว่า “Trick or treat?” ซึ่งจะแปลว่า “จะให้เราหลอกหรือจะเลี้ยงดูพวกเรา?
สำหรับคำตอบนั้น ถ้าเจ้าของบ้านพูดว่า trick เด็กๆ ก็จะพยายามหลอกให้เจ้าของบ้านกลัว ด้วยท่าทางต่างๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว น้อยคนมากๆ ที่จะ said trick โดยส่วนใหญ่แล้ว เจ้าของบ้านเขาก็จะ say treat ตลอด และเมื่อเจ้าของบ้านบอกว่า treat นั่นก็หมายความว่า ตกลงที่จะเลี้ยงขนมเด็กๆ ค่ะ
ในช่วงคืนวันฮาโลวีน แต่ละบ้านจะเตรียมขนมหวาน และลูกอม ไว้ treat เด็กๆ ที่มาเคาะ แต่ถ้าบ้านหลังไหนเขาไม่มีขนมหรือลูกอมให้ บ้านหลังนั้นก็จะปิดไฟไปเลย เป็นอันรู้กัน แล้วเด็กๆ ก็จะเดินไปเคาะบ้านที่เปิดไฟไว้ หรือ บ้านที่มี โคมไฟ Jack o’ Lantern ที่นำฟักทองมาเกาะสลักเป็นหน้าปีศาจแล้วใส่ไฟข้างในซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีนนั่นเอง
ที่มาของเทศกาลฮาโลวีนนั้นคือวันที่ชนพื้นเมืองของไอร์แลนด์ที่ชื่อว่าชาวเคลต์ (Celt) เชื่อว่าเป็นวันเปิดมิติของคนที่ตายไปแล้วและคนที่มีชีวิตอยู่ คนที่ตายไปในปีที่ผ่านมา จะเข้ามาหาร่างสิงเพื่อจะได้มีชีวิตต่อไป ตามความเชื่อนั้นทำให้บ้านทุกบ้านปิดไฟและแต่งกายให้ประหลาดที่สุด ปลอมตัวเป็นผี เพื่อไม่ให้ผีตัวจริงเข้ามาสิงร่างของตนนั่นเอง แต่ในปัจจุบัน ความเชื่อเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นตำนานเท่านั้น วันฮาโลวีนจึงกลายมาเป็นเทศกาลสนุกๆ ของเด็กๆ นั่นเอง
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.